เจาะลึก! หลักสูตรอังกฤษในไทย ทำไมแต่ละโรงเรียนถึงไม่เหมือนกัน?

เจาะลึก! หลักสูตรอังกฤษในไทย ทำไมแต่ละโรงเรียนถึงไม่เหมือนกัน?

คุณพ่อท่านหนึ่งทักมาหาลงทุนมัมว่า

“ผมไปดูโรงเรียนอินเตอร์ที่ใช้หลักสูตรอังกฤษมา 3 แห่ง ค่าเทอมต่างกันหลายแสน! แต่ละที่ก็บอกว่าตัวเองใช้ British Curriculum เหมือนกัน แบบนี้ควรเลือกยังไงดี?”

เชื่อว่าหลายบ้านคงเคยสงสัยแบบนี้เหมือนกัน

วันนี้ ลงทุนมัม ขอเล่าให้ฟังแบบเห็นภาพค่ะ

ลองจินตนาการถึง “Fish & Chips” อาหารขึ้นชื่อของอังกฤษดูนะคะ
แม้จะเป็นเมนูเดียวกัน แต่ถ้าเราเดินเข้าร้านต่างกัน
บางร้านใช้ปลาสดใหม่ บางร้านทอดกรอบ บางร้านเสิร์ฟกับถั่วลันเตา หรือมีซอสสูตรพิเศษ
รสชาติและประสบการณ์ที่ได้ก็ไม่เหมือนกันเลย

โรงเรียนที่ใช้ หลักสูตรอังกฤษในไทย ก็คล้ายกันค่ะ
แม้จะใช้ชื่อเดียวกัน แต่รายละเอียดและคุณภาพอาจแตกต่างกันมาก

3 เรื่องหลักที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนเลือกโรงเรียนหลักสูตรอังกฤษ

1️⃣ การรับรองจาก Cambridge International (CIS)
โรงเรียนที่ได้รับการรับรอง CIS อย่างเต็มรูปแบบ จะต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด ทั้งหลักสูตร คุณภาพครู และสิ่งอำนวยความสะดวก

เหมือนร้าน Fish & Chips ที่ได้รางวัลการันตี รสชาติและคุณภาพย่อมมั่นใจได้มากกว่า

2️⃣ คุณภาพของครูผู้สอน
บางโรงเรียนมีครูที่จบจาก Top Universities ของ UK และมีประสบการณ์สอนในอังกฤษมาโดยตรง
ในขณะที่บางโรงเรียนอาจใช้ครูที่เพิ่งจบใหม่ หรือยังไม่มีประสบการณ์ในระบบอังกฤษมากนัก

คุณภาพของครูจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละโรงเรียนแตกต่างกัน เหมือนเชฟแต่ละคนที่มีฝีมือไม่เท่ากัน

3️⃣ ความเข้มข้นของหลักสูตรและวิธีการสอน
แม้จะใช้ชื่อว่า “หลักสูตรอังกฤษ” เหมือนกัน แต่แต่ละโรงเรียนมีแนวทางการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมที่แตกต่างกันอย่างมาก
บางโรงเรียนเน้นวิชาการเข้มข้น มีการบ้าน การสอบ และการประเมินผลที่ต่อเนื่อง
ในขณะที่บางโรงเรียนออกแบบการเรียนรู้ให้ผ่อนคลายขึ้น เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม การลงมือทำ หรือ กิจกรรมเสริม เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ ชมรมต่าง ๆ ก็มีความหลากหลายและให้ความสำคัญไม่เท่ากันในแต่ละโรงเรียน

แล้วเราควรเลือกอย่างไรดี?

ลงทุนมัมมีหลักง่าย ๆ คือ “ดูที่ตัวลูกเป็นหลัก”

  • ถ้าลูกมีเป้าหมายจะไปเรียนต่อที่ UK หรือชอบความเข้มข้นทางวิชาการ เลือกโรงเรียนที่ได้รับการรับรอง CIS อย่างเต็มรูปแบบ แม้ค่าเทอมจะสูงกว่า แต่ได้มาตรฐานที่ชัดเจน
  • ถ้าลูกยังต้องการเวลาในการปรับตัว หรืออยากให้ลูกได้พัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
    โรงเรียนที่ปรับหลักสูตรให้ยืดหยุ่นกว่า อาจเหมาะสมกว่า

สุดท้ายนี้ เราอยากฝากไว้ว่า
“การเลือกโรงเรียนก็เหมือนการเลือกร้าน Fish & Chips ไม่ใช่ว่าร้านที่แพงที่สุดจะอร่อยที่สุดเสมอไป แต่ต้องเลือกร้านที่รสชาติถูกปากและเหมาะกับเราที่สุด”

เพื่อน ๆ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกโรงเรียนหลักสูตรอังกฤษอย่างไรบ้าง?
มาแชร์กันในคอมเมนต์กันได้ค่ะ

ปล. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากได้แนวทางและเทคนิคการเลือกโรงเรียนที่ใช่สำหรับลูกแบบเจาะลึก ลงทุนมัมมีคอร์สออนไลน์ “Smart School Selection” ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและตรงจุดค่ะ (เดี๋ยวเราแนบรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ให้ในคอมเมนต์นะคะ)

*หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้มาจากประสบการณ์จริงในการให้คำปรึกษาครอบครัวที่กำลังเลือกโรงเรียนให้ลูก การตัดสินใจเลือกโรงเรียนควรพิจารณาปัจจัยรอบด้านและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญประกอบค่ะ

=============

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ลงทุนมัม ได้ที่

FB: http://www.facebook.com/longtunmom/

Website: https://www.longtunmom.com

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCtmKu2CuSFh8-5UQZORg80Q