บทเรียนจากวันที่พื้นสั่นไหวและ ทักษะชีวิต ที่ลูกต้องมี

บทเรียนจากวันที่พื้นสั่นไหวและ ทักษะชีวิต ที่ลูกต้องมี 

“แม่ขา! ตึกมันสั่น! “

เสียงลูกตะโกนผ่านโทรศัพท์ตอนแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดทำเอาใจแม่แทบหล่น ลูกอยู่โรงเรียน ส่วนแม่อยู่ที่บ้าน ทั้งตัวเราและลูกๆ ไม่เคยเจอแผ่นดินไหวมาก่อน จะทำยังไงดี? จะบอกลูกยังไง? ตอนนั้นเองที่ลงทุนมัมฉุกคิดว่า เราไม่เคยสอนลูกเลยว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติแบบนี้

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ ลงทุนมัม ฉุกคิดว่า มีทักษะชีวิตอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับลูกๆ ของเราในยุคที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย ทั้งภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ 

ทักษะชีวิตที่ลูกๆ ควรมีเพื่อรับมือภัยพิบัติ 

1) การรับมือภาวะฉุกเฉิน  – สอนลูกให้จำเบอร์โทรฉุกเฉิน (191, 1669) และวิธีติดต่อพ่อแม่เมื่อเกิดเหตุนะคะ จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เด็กที่ได้ฝึกซ้อมแผนรับมือภัยพิบัติมีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่าเด็กที่ไม่เคยฝึกเลยค่ะ

2) การปฐมพยาบาลเบื้องต้น  – สอนวิธีทำแผล ห้ามเลือด และช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น สภากาชาดไทยบอกว่าเด็กอายุ 7-8 ปีขึ้นไปเรียนรู้การปฐมพยาบาลพื้นฐานได้แล้วนะคะ

3) การจัดการความเครียดและความกลัว  – ฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์เมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน การหายใจลึกๆ และคิดอย่างมีสติ

4) ทักษะการเอาตัวรอด  – สอนวิธีหลบภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว (หมอบใต้โต๊ะที่แข็งแรง อยู่ห่างจากหน้าต่าง) น้ำท่วม ไฟไหม้ และภัยพิบัติอื่นๆ

5) การเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน  – ชวนลูกมาช่วยจัดกระเป๋าฉุกเฉินประจำบ้าน และให้รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง

จากการศึกษาของ UNICEF พบว่า การสอนลูกๆ เรื่องการรับมือภัยพิบัติ ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แต่ยังช่วยลดผลกระทบทางจิตใจหลังเกิดเหตุด้วยค่ะ 

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดตอนลูกๆ อยู่โรงเรียนพอดี ทำให้ลงทุนมัมได้เห็นวิธีรับมือของโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ซึ่งมีระบบเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติที่เป็นมาตรฐานสากล ส่วนหนึ่งเพราะเด็กๆ ในโรงเรียนนานาชาติมีการฝึกซ้อมรับมือภาวะฉุกเฉินทั้งไฟไหม้ หรือ Locked Down เป็นประจำทุกปี ทำให้ทุกอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว

ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นตัวอย่างที่ดีมากในการเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว โดยเฉพาะในโรงเรียนที่มีการซ้อมรับมือ 1-2 ครั้งต่อเทอม มีการตรวจสอบจุดอพยพ และทบทวนเส้นทางสำรองระหว่างบ้านกับโรงเรียน

ที่น่าสนใจคือ กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นที่เรียกว่า “รันโดะเซรุ” ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน ใช้เป็นทุ่นลอยน้ำได้ ทนไฟได้ระดับหนึ่ง และใช้กำบังศีรษะตอนแผ่นดินไหวได้ด้วยนะคะ

พ่อแม่อย่างเราก็เริ่มเตรียมความพร้อมกับลูกๆ ได้ที่บ้าน ลองทำเป็นเกมสนุกๆ แต่แฝงความรู้ เช่น “ถ้าตอนนี้เกิดแผ่นดินไหว หนูจะทำอย่างไร?” หรือ “ถ้าแม่ไม่อยู่บ้าน แล้วมีคนแปลกหน้ามาเคาะประตู หนูจะทำอย่างไร?” 

ที่บ้านลงทุนมัมได้จัดกระเป๋าฉุกเฉินประจำบ้านแล้ว มีน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยาสามัญ ไฟฉาย วิทยุแบบใช้ถ่าน และเอกสารสำคัญ โดยให้ลูกๆ ช่วยจัดด้วยกัน เพื่อให้รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในและเก็บไว้ตรงไหน

แผ่นดินไหวครั้งนี้เหมือนสัญญาณเตือนให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่คาดไม่ถึง การสอนทักษะชีวิตเหล่านี้ไม่ใช่การทำให้ลูกกลัวโลก แต่เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจและความสามารถในการดูแลตัวเองในทุกสถานการณ์ค่ะ

คุณพ่อคุณแม่เริ่มสอนทักษะเหล่านี้ให้ลูกกันหรือยังคะ?

==========

🔗 ดูรายละเอียดคอร์ส 𝑺𝒎𝒂𝒓𝒕 𝑺𝒄𝒉𝒐𝒐𝒍 𝑺𝒆𝒍𝒆𝒄𝒕𝒊𝒐𝒏 เพิ่มเติมได้ที่ 👉 https://bit.ly/4d2mHxJ
หรือทักแอดมินเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @longtunmom หรือจิ้มลิ้งค์นี้กดเพิ่มเพื่อนได้เลยค่ะ 👉 https://lin.ee/CfbCF6w

รับประกันความพอใจ ถ้าเรียนแล้วไม่สามารถใช้ได้จริง ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ภายใน 30 วัน

=============

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ลงทุนมัม ได้ที่

FB: http://www.facebook.com/longtunmom/

Website: https://www.longtunmom.com

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCtmKu2CuSFh8-5UQZORg80Q