ไม่รู้ไม่ได้! ค่าใช้จ่ายโรงเรียนอินเตอร์ ที่อาจทำให้พ่อแม่ต้องคิดใหม่

ถ้าใครไม่ได้ให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ ก็คงจะไม่รู้เรื่องนี้!

ลงทุนมัม เชื่อว่าหลายๆ บ้านที่เพิ่งได้รับใบแจ้ง ค่าใช้จ่ายโรงเรียนอินเตอร์ ที่ลูกกำลังจะไปเรียนปีแรก ต้องมีอึ้งกันบ้างว่าทำไมโรงเรียนอินเตอร์มีค่าใช้จ่ายเยอะจัง เพราะตอนแรกคิดว่าหลัก ๆ มีแค่ “ค่าเทอม” เท่านั้น

บทความนี้เลยอยากมาแชร์เรื่อง “ค่าใช้จ่ายแฝง” ที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนส่งลูกเรียนอินเตอร์ ค่ะว่า นอกจากค่าเทอมแล้ว มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่พ่อแม่ต้องเตรียมใจ (และเตรียมเงิน) ไว้

เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกเลยค่ะ ตอนสมัครเรียนจะมีค่า Application Fee ประมาณ 5,000-10,000 บาท ตามด้วยค่า Assessment Test อีก 3,000-5,000 บาท ซึ่งบางโรงเรียนอาจจะไม่รับโอนค่าสมัครนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของค่าเทอม

เมื่อทางโรงเรียนรับเข้าเรียนแล้ว เราจะต้องจ่ายค่า Registration Fee หรือค่าลงทะเบียนแรกเข้า ซึ่งอาจสูงถึง 100,000-500,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน และที่สำคัญหลายโรงเรียนเป็นแบบให้จ่ายครั้งเดียวและ ไม่สามารถขอคืนได้แม้ว่าจะย้ายโรงเรียนกลางคัน

นอกจากนี้ บางที่อาจจะมีค่า Development Fee หรือค่าพัฒนาโรงเรียน ที่เรียกเก็บรายปี ปีละประมาณ 50,000-200,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์การเรียนการสอน

ส่วนค่าใช้จ่ายประจำวันที่หลายคนมองข้าม อย่างค่าชุดนักเรียน ที่ต้องมีทั้งชุดปกติ ชุดพละ ชุดว่ายน้ำ รวมแล้วอาจทะลุ 20,000-30,000 บาทต่อปี หรือค่าอุปกรณ์การเรียน หนังสือ และ iPad ที่บางโรงเรียนกำหนดให้ต้องมี อาจรวมเป็นเงินอีก 50,000-100,000 บาทต่อปี

ยังไม่นับรวมค่ากิจกรรมพิเศษ เช่น ทัศนศึกษาต่างประเทศ ค่าย หรือการแข่งขันต่างๆ ที่อาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนต่อครั้ง และค่ารถโรงเรียนที่อาจสูงถึง 40,000-80,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะทาง

คุณแม่ท่านหนึ่งเคยเล่าให้ลงทุนมัมฟังว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อปีอาจสูงถึง 1.5-2 เท่าของค่าเทอม เช่น ถ้าค่าเทอม 800,000 บาทต่อปี ค่าใช้จ่ายรวมอาจสูงถึง 1.2-1.6 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว! หลายครอบครัวที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า อาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องย้ายโรงเรียนกลางคัน ทั้งที่ตั้งใจจะให้ลูกได้เรียนอินเตอร์จนจบ

ลงทุนมัมอยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกคนว่า การวางแผนค่าใช้จ่ายการศึกษาให้ลูกเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ ก่อนตัดสินใจเลือกโรงเรียนอินเตอร์ ควรสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งส่วนหลักและค่าใช้จ่ายแฝงให้ครบถ้วน

และอย่าลืมคำนวณค่าเทอมที่อาจปรับขึ้นทุกปี และผลกระทบจากเงินเฟ้อด้วยนะคะ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากวางแผนไม่รอบคอบ อาจกระทบต่อความต่อเนื่องในการเรียนของลูกได้

สุดท้ายนี้ การวางแผนเรื่องเงินเป็นเพียงหนึ่งในลิสต์สิ่งที่พ่อแม่จำเป็นต้องรู้เท่านั้นค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเข้าใจและเตรียมพร้อม ทั้งเรื่องหลักสูตร แนวทางการสอน และบรรยากาศของโรงเรียน ก่อนจะตัดสินใจฟันธงว่าโรงเรียนไหน “ใช่” ที่สุดสำหรับลูกของเรา

ลงทุนมัมอยากฝากให้ทุกครอบครัววางแผนอย่างรอบด้าน เลือกและปรับแผนให้เหมาะกับสถานการณ์ เพื่อให้ลูกได้เติบโตในเส้นทางที่เลือกไว้อย่างมั่นคงค่ะ

ปล. ถ้าคุณกำลังสับสนในการหาโรงเรียนอินเตอร์ที่เหมาะและวางแผนอนาคตการศึกษาให้ลูก เราขอแนะนำ คอร์ส 𝑺𝒎𝒂𝒓𝒕 𝑺𝒄𝒉𝒐𝒐𝒍 𝑺𝒆𝒍𝒆𝒄𝒕𝒊𝒐𝒏 ที่ตกผลึกวิธีการเลือกโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพที่สุดจากลงทุนมัม ช่วยให้คุณเลือกโรงเรียนที่ใช่ ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง ลงทุนครั้งเดียว เพื่ออนาคตที่ใช่ของลูก