เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน? British, US, IB หลักสูตรอินเตอร์ ไหนที่จะใช่สำหรับเด็กช่างค้นหา
วันก่อน มีคุณแม่ท่านหนึ่งมาปรึกษา ลงทุนมัม
คุณแม่เล่าว่า “ลูกสาวเป็นเด็กชอบลองอะไรใหม่ๆ บางวันอยากเล่นเปียโน อีกวันอยากเรียนโค้ดดิ้ง หรือบางทีก็อยากลองกีฬาใหม่ ๆ อย่างบาสเก็ตบอล
คุณแม่ก็เลยลังเล ว่าหลักสูตรไหนจะ “เปิดโลก” ให้ลูกได้มากที่สุด
นี่คือ “โจทย์ยอดฮิต” ของพ่อแม่ยุคนี้
จากประสบการณ์ที่ให้คำปรึกษาครอบครัวมาหลายปี
ลงทุนมัมขอบอกเลยว่า…
“ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว”
แต่ละหลักสูตรมีเสน่ห์และจุดแข็งของตัวเอง
ขอเล่าให้ฟังแบบเห็นภาพค่ะ…
British Curriculum
หลักสูตรนี้เหมือน “บ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง”
เด็ก ๆ จะได้ลองกิจกรรมหลากหลาย ทั้งวิชาการ ศิลปะ กีฬา
แต่ทุกอย่างมีระบบ มีขั้นตอน
พอขึ้นมัธยม เด็กจะได้เลือกวิชาเฉพาะทางมากขึ้น
เหมาะกับเด็กที่ชอบกิจกรรมหลากหลาย แต่ยังอยากมี “กรอบ” ให้เดิน
ถ้าลูกเป็นเด็กที่ชอบความชัดเจน มีเป้าหมาย หรืออยากได้โครงสร้างที่แน่นอน British จะตอบโจทย์มาก
แต่ถ้าลูกยังค้นหาตัวเอง หรือเปลี่ยนใจบ่อย อาจต้องระวังเรื่องการเลือกวิชาเฉพาะทาง เพราะเปลี่ยนสายกลางทางอาจทำได้ยากกว่าระบบอื่นค่ะ
US Curriculum
ถ้าเปรียบเป็นบ้าน ก็เหมือนบ้านที่มี “ห้องลับ” ซ่อนอยู่เต็มไปหมด
เด็ก ๆ เลือกวิชาเลือก (Electives) ได้ตั้งแต่มัธยมต้น
อยากลองอะไรใหม่ ๆ ก็เลือกได้เลย
ชมรม กีฬา กิจกรรมเสริม มีให้เลือกเพียบ
เหมาะกับเด็กที่ชอบความยืดหยุ่น อยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
ระบบ US เปิดโอกาสให้เด็กค้นหาตัวเองได้เต็มที่ เหมาะกับเด็กที่ยังไม่แน่ใจว่าชอบอะไร
แต่เพราะความยืดหยุ่นสูง เด็กต้องมีวินัยและความรับผิดชอบในการเลือกเส้นทางของตัวเอง
ถ้าขาดการวางแผน อาจหลงทางหรือเลือกวิชาที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายในอนาคตได้
IB Curriculum
หลักสูตรนี้เหมือน “บ้านที่มีหน้าต่างกว้าง”
เด็กจะได้เรียนรู้รอบด้าน ได้คิดวิเคราะห์ ได้ทำโครงงาน
ทุกอย่างเน้นการตั้งคำถามและค้นหาคำตอบ
เหมาะกับเด็กที่ชอบความท้าทาย และอยากลองทำอะไรที่หลากหลายจริง ๆ
แต่เนื่องจาก IB เป็นหลักสูตรที่เข้มข้นและ workload หนัก เด็กต้องเรียนครบทุกกลุ่มวิชา ทำโครงงาน และทำกิจกรรมเพื่อสังคม เหมาะกับเด็กที่มีความรับผิดชอบสูง ชอบคิดวิเคราะห์ และบริหารเวลาได้ดี
ถ้าลูกยังไม่พร้อมรับความกดดัน หรือยังไม่ชอบการคิดเชิงลึก อาจรู้สึกเหนื่อยกับระบบนี้
แต่ถ้าลูกชอบความท้าทาย IB จะช่วยเปิดโลกและฝึกทักษะรอบด้านได้ดีมากค่ะ
แต่สุดท้าย…
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ชื่อหลักสูตร
แต่คือ “บรรยากาศ” และ “โอกาส” ที่โรงเรียนสร้างให้เด็ก
อย่าเพิ่งตัดสินใจจากข้อมูลในกระดาษ
ลองไปเยี่ยมชมโรงเรียนจริง ๆ
พูดคุยกับครู ดูตารางกิจกรรม
ถามเด็ก ๆ ที่เรียนอยู่
แล้วจะเห็นเลยว่า โรงเรียนไหน “ใช่” สำหรับลูกของเรา
บ้านไหนมีลูกชอบลองอะไรใหม่ ๆ เหมือนกันบ้าง
แล้วคุณพ่อคุณแม่เลือก หลักสูตรอินเตอร์ ไหนให้ลูกกัน
มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
ปล. ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังลังเล หรืออยากได้แนวทางเลือกโรงเรียนที่เหมาะกับลูก
ลงทุนมัมขอแนะนำคอร์ส 𝑺𝒎𝒂𝒓𝒕 𝑺𝒄𝒉𝒐𝒐𝒍 𝑺𝒆𝒍𝒆𝒄𝒕𝒊𝒐𝒏
คอร์สเดียวที่ตกผลึกจากประสบการณ์จริง
ช่วยให้คุณเลือกโรงเรียนที่ใช่ได้อย่างมั่นใจ
เพราะอนาคตของลูก…เริ่มต้นที่การเลือกโรงเรียนค่ะ
==========
🔗 ดูรายละเอียดคอร์ส 𝑺𝒎𝒂𝒓𝒕 𝑺𝒄𝒉𝒐𝒐𝒍 𝑺𝒆𝒍𝒆𝒄𝒕𝒊𝒐𝒏 เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4d2mHxJ
หรือทักแอดมินเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @longtunmom
จิ้มลิ้งค์นี้กดเพิ่มเพื่อนได้เลยค่ะ 👉 https://lin.ee/CfbCF6w
รับประกันความพอใจ ถ้าเรียนแล้วไม่สามารถใช้ได้จริง ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ภายใน 30 วัน
=============
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ลงทุนมัม ได้ที่
FB: http://www.facebook.com/longtunmom/
Website: https://www.longtunmom.com
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCtmKu2CuSFh8-5UQZORg80Q